หลังจากที่มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จากนั้น ประชาชนจึงให้ความสนใจเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งในโผครมล่าสุด 1 ในนั้นมีรายชื่อของนาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.สจากพรรคภูมิใจไทยจังหวัดอุทัยธานี ได้มีชื่อ อยู่ในคณะรัฐมนตรียุคเศรษฐา 1 และ ล่าสุดปรากฏว่านายชาดา ได้รับเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงทำให้ชื่อของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์เป็นที่สนใจ รวมถึงก่อนหน้านั้นได้มีภาพของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ในการอภิปรายเกี่ยวกับ นาย พิธาลิ้ มเจริญรัตน์แคนดิเดตนายกจากพรรค ก้าวไกล ว่าไม่เหมาะสม จนทำให้หลายคนสนใจและเริ่มขุดคุ้ยประวัติ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ มีครอบครัวเป็นชาวมุสลิมปาทานซึ่งอพยพมาจากปากีสถาน และได้เข้ามาตั้งรกรากที่จังหวัดอุทัยธานีตั้งแต่รุ่นปู่ ซึ่งชีวิตในวัยเด็กของนายชาดานั้นเขาต้องสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยผู้เป็นพ่อถูกยิงเสียชีวิต และถัดมาไม่นานอีก 7 ปีมารดาของนายชาดาก็ถูกยิงเสียชีวิตอีกคน โดยในปีเดียวกันนั้น จึงทำให้พี่ชาย รับหน้าที่ดูแลครอบครัวโดยการค้าเนื้อต่อจากพ่อและแม่ แต่สุดท้ายก็ถูกยิงเสียชีวิตอีกคน เหลือเพียงนายชาดาและน้องสาวชื่อมนัญญา กลายเป็นลูกกำพร้าทั้งสองคน
ด้านประวัติครอบครัวของนายชาดาเคยสมรส ถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายได้หย่าร้างและมีบุตรรวมทั้งหมด 7 คน
ด้านประวัติการศึกษานายชาดา จบการศึกษา ชั้นสูงสุดปริญญาตรีและปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานีพรรคภูมิใจไทย และจากประสบการณ์การทำงานเขาเคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ก่อนที่จะมาลงเลือกตั้งในสังกัดพรรคชาติไทย และในปี 2554 ได้มีการย้ายพรรคอีกครั้งในสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา จนมาถึงปี 2561 จึงย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยจนถึงปัจจุบัน
เหตุการณ์สำคัญของนาย ชาดา ไทยเศรษฐ์
เคยถูกจับกุม ในข้อหาจ้างวันฆ่านายสมเกียรติจันทร์หิรัญ เลขาสสพรรคไทยรักไทยและศาลได้ยกฟ้องในปี 2548
ปี 2555 ถูกลอบยิงที่ตำบลหมูสีอำเภอปากช่องนครราชสีมา แต่ในครั้งนั้นนายชาดาได้นั่งอยู่บนรถอีกคัน ซึ่งในครรภ์ของเขา ผู้ที่นั่งอยู่ในรถคือนายฟารุตไทเศผู้ที่นั่งอยู่ในรถคือนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ซึ่งเป็นบุตรชายถูกยิงเสียชีวิตบนรถของนายชาดา
23 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้เข้าค้นบ้าน และแจ้งข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง
2 มิถุนายน 2565 มีกระแสข่าวนายชาดาไทยเศรษฐ์ได้กระทบกระทั่งกับนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.สจากจังหวัดสุพรรณบุรีพักชาติไทยพัฒนา แต่ทั้งนี้นายชาดาได้ออกมายืนยันว่าตนเองนั้นไม่ได้มีการทำร้ายตบหน้าหรือปลาโทรศัพท์ของนาย ณัฐวุฒิตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด